ห้องวิถีชีวิตชาวใต้
ห้องวิถีชีวิตชาวใต้
โชคชะตาราศี
โชคชะตาราศี
เป็นส่วนหนึ่งของความเชื่อที่เกี่ยวกับการแพทย์ อันหมายถึง
การทำนายหรือคาดการณ์เกี่ยวกับบุคคล สิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิตอื่น ๆ
รวมถึงเหตุการณ์ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต การพยากรณ์เป็นความเชื่อที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ
เป็นข้อสังเกตที่คนสมัยก่อนรวบรวมไว้คล้าย ๆ
กับการเก็บข้อมูลทางสถิติแล้วนำมาใช้ในการพยากรณ์ว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
โชคชะตาราศีจึงเป็นเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับการพยากรณ์ของบุคคลตามวัน เดือน ปีเกิด และรูปลักษณ์ร่างกายที่จะนำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้า
ความเสื่อมถอย ความเป็นมงคล อัปมงคล ในความเป็นไปของชีวิตบุคคลนั้น ๆ
การพยากรณ์
ผู้พยากรณ์มักสังเกตจากลักษณะร่างกาย วัน เดือน ปีเกิด การอัญเชิญภูตผี
เทวดามาเข้าทรง การเสี่ยงตาย เช่น การแทงศาสตรา การทอดเบี้ย เซียมซี การดูนิมิตจากตำรา การเข้าฌาน การดูฤกษ์ยาม
การทำนายจากลางสังหรณ์ เป็นต้น ซึ่งจัดแบ่งการพยากรณ์ออกได้ 4 หมวดดังนี้
1.
หมวดนรลักษณ์ศาสตร์ หมายถึง การพยากรณ์โดยสังเกตจากลักษณะร่างกาย เช่น หน้า
รูปร่าง ลายมือ อิริยาบทต่าง ๆ เป็นต้น
2.
หมวดหัตถศาสตร์ หมายถึง การทำนายลักษณะชีวิต
จิตใจ ความเป็นมาต่าง ๆทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
โดยอาศัยการสังเกตจากเส้นที่ปรากฎเป็นลายนิ้วมือ ซึ่งจะดูลักษณะฝ่ามือ นิ้วมือ
เล็บ เป็นบนฝ่ามือ และเส้นสำคัญ 3 เส้น คือ เส้นชีวิต
เส้นจิตใจ และเส้นสมอง
3.
หมวดไสยศาสตร์ หมายถึง การทำนายหรือการพยากรณ์ที่มีการอัญเชิญภูตผี
เทวดามาเข้าทรงในร่าง แล้วให้ช่วยทำนายเหตุการณ์ต่าง ๆ รวมทั้งการเข้าฌาน
การเสี่ยงตาย โดยใช้เซียมซี ตำราดูนิมิต แทงศาสตรา ทอดเบี้ย
เพราะเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะบอกชะตาชีวิตของคนในช่วงนั้น
การทำนายทางไสยศาสตร์ยังหมายรวมถึงการทำนายเกี่ยวกับโชคลาง ได้แก่ การทำนายฝัน
และลางสังหรณ์อื่น ๆด้วย
4.
หมวดโหราศาสตร์ หมายถึง การทำนายโดยมีการคำนวณตัวเลขเกี่ยวกับ วัน
เดือน ปี แล้วผูกดวง เพื่อทำนายความเชื่อทางด้าน
โหราศาสตร์ยังเกี่ยวกับการดูฤกษ์ยาม วันดี วันร้ายด้วย
ความเชื่อเกี่ยวกับการดูโชคชะตาราศีเพื่อ พยากรณ์หรือทำนายทายทัก จึงเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของชาวใต้มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การดูโชคชะตาราศีจึงเป็นทั้งปัจจัยส่งเสริมและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา
Fortune
Fortune has been a belief
concerning medical treatment that refers to fortune telling or prediction for
an individual and other non-living things including the past, the present, and
the future. Prediction has been an inherited belief since the old times. It is
noticeable that people in those days collected information in the similar way
to collecting statistic facts and used the information in prediction. Fortune
has been about the belief in telling fate of an individual by date of birth and
physical appearance that would predict the good and the bad in the life of an
individual.
A fortune teller would notice the
physical look and date of birth along with other technique or superstitious
power such as sorcerer, meditation,
foretoken, premonition, etc. The fortune telling can be divided in 4 categories
as follows.
1.
Physiognomy
refers to the prediction from physical look.
- Hand reading refers to
prediction from the lines on palm with three important lines of life,
mind, and brain.
- Superstition refers to the prediction
from spirits including meditation, cast lots, etc. in following to the
belief that the spirits would tell fortune of an individual. Superstition
also refers to oneiromancy and premonition.
- Astrology refers to the
prediction by calculating from date of birth and then tell the fortune.
Belief in fortune telling or fortune prediction has been influencing over the way of life of southern people since the old times even in the present. Fortune telling then has been of both supporting and obstructing factor to life development..
การนวดแผนโบราณ
การนวดแผนโบราณ เป็นวิธีการหนึ่งในการบำบัดรักษาและดูแลสุขภาพของคนไทยตาม การแพทย์แผนไทย ซึ่งมีทั้งการใช้ยาสมุนไพร การอบ การประคบ และการนวด ที่เรียกกันทั่วไปว่า “การนวดแผนโบราณ” การนวดแผนโบราณ มาจากหลักการของการแพทย์แผนไทยที่เชื่อว่าความเจ็บป่วย เกิดจากความไม่สมดุลของธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งมีเหตุปัจจัยจากสัจธรรมในชีวิตมนุษย์ที่มีการเกิด แก่เจ็บ ตาย รวมทั้งอิทธิพลของพฤติกรรมของมนุษย์เอง การบำบัดรักษาจึงมุ่งเน้นที่การแก้สมดุลของธาตุทั้งสี่ เช่น การใช้ยาสมุนไพร การอบ การประคบ การนวด รวมทั้งพิธีกรรมอื่น ๆ การบำบัดรักษาความเจ็บปวดด้วยวิธีการนวดแผนโบราณ ก็เพราะเชื่อว่าเส้นต่าง ๆ ใ
การนวดแผนโบราณ เป็นวิธีการหนึ่งในการบำบัดรักษาและดูแลสุขภาพของคนไทยตาม
การแพทย์แผนไทย ซึ่งมีทั้งการใช้ยาสมุนไพร การอบ การประคบ และการนวด ที่เรียกกันทั่วไปว่า “การนวดแผนโบราณ”
การนวดแผนโบราณ มาจากหลักการของการแพทย์แผนไทยที่เชื่อว่าความเจ็บป่วย เกิดจากความไม่สมดุลของธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งมีเหตุปัจจัยจากสัจธรรมในชีวิตมนุษย์ที่มีการเกิด แก่เจ็บ ตาย รวมทั้งอิทธิพลของพฤติกรรมของมนุษย์เอง การบำบัดรักษาจึงมุ่งเน้นที่การแก้สมดุลของธาตุทั้งสี่ เช่น การใช้ยาสมุนไพร การอบ การประคบ การนวด รวมทั้งพิธีกรรมอื่น ๆ
การบำบัดรักษาความเจ็บปวดด้วยวิธีการนวดแผนโบราณ ก็เพราะเชื่อว่าเส้นต่าง ๆ ในร่างกายเกิดวิปริตติดกันขึ้นมา หรือเกิดจากการกระทำของภูตผีปีศาจ การนวดแผนโบราณจึงถือว่าเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งหรือเป็นองค์ความรู้ที่มีการเรียน การสอน การสอบ และมีตำราเป็นแบบเรียนสืบทอดกันมา
ตัวอย่างวิธีการนวดแผนโบราณเพื่อบำบัดรักษาความเจ็บป่วย
ตอนหนึ่งว่าสิทธิการิยะ
ที่นีจะกล่าวแผนนวด แก้สรรพโรคทั้งปวง แก้ปวดหัวปะสังแล
สันนิบาตนวดแนวขนงคิ้วทั้งสองข้างแล
ชิวหาสดมภ์และสะอึก
นวดซอกคอข้างหน้าแล
แก้ราก นวดอกแล
แก้ปัตคาด นวดหัวไหล่ต้นแขนแล แก้เมื้อยตัวแลไข้สั่นนิบาตปากเบี้ยว นวดตาศอข้างขวาแล แก้มวนท้องและลมอัสวาตอัสดมภ์ นวดท้องริมสีข้างต่อสะดือแล แก้นอนมิหลับ นวดหน้าแข้งซ้ายแล แก้ชิวหานวดเส้นเท้าท้องเท้า ตามตาตุ่มขึ้นไปริมแป้งถึงห้องเข่าซ้ายแล
Ancient
massage is a physical therapy and health care of Thai people in following to
Thai medical treatment that included herbal treatment, stifling, hot
compression, and massage which is widely known as “ancient massage”.
Ancient
massage originated from the principle of Thai medical treatment that believed
that a sickness is from imbalance of the 4 elements i.e. earth, water, wind,
and fire that is the consequence in the truth of life that everyone must be of
birth, ageing, sick, and death as well as the influences of human’s behaviors.
The treatment emphasizes on correcting the balance of the 4 elements such as
herbal medicine, hot compression, massage, and some treatment functions.
ประเพณีออกปากกินวาน
ออกปากกินวาน เป็นประเพณีอย่างหนึ่งของชาวบ้านภาคใต้ที่ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาเช่นเดียวกับประเพณี “ลงแขก” ของชาวภาคกลาง ออกปากกินวาน หมายถึง การไหว้วานให้เพื่อนบ้านมาช่วยกันลงแรงทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้งานหนักหรือเร่งด่วนสำเร็จลุล่วง โดยที่ผู้ไหว้วานไปบอกกล่าวด้วยวาจาจึงเรียกการไหว้วาน